วันอังคารที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561

สุภโชค สารชาติ




สุภโชค สารชาติ หนึ่งในผลผลิตจากอะคาเดมีของยอดทีมแดนอีสาน ฟอร์มกำลังร้อนแรงเหลือเกินหลังศึกโตโยต้า ไทยลีก เปิดฉากฟาดแข้งไปได้ 4 นัด ก็จัดการยิงไปแล้วถึง 4 ประตู รวมถึงเกมเมื่อวานนี้ที่ซัดแฮตทริกใส่ทีมน้องใหม่อย่าง ไทย ฮอนด้า ลาดกระบัง เอฟซี...แต่เขาเป็นใคร มาจากไหน? ฝีเท้าเป็นอย่างไร? โฟร์โฟร์ทู ประเทศไทย ขออาสาพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเขาแบบทุกซอกทุกมุม

เรื่องเล่า 60 วินาที

หนุ่มน้อยจากศรีสะเกษ จังหวัดในแถบตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสานของไทย เกิดในครอบครัวเกษตรกรโดยแท้ พ่อแม่ประกอบอาชีพทำนาข้าวของตัวเอง พร้อมกับมีกิจการร้านขายปุ๋ยควบคู่ไปด้วย สุภโชคมีพี่น้องทั้งหมดสองคน และน้องชายของเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจาก ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา แข้งรุ่นจิ๋วจากทีมชาติไทย ชุด U14 ที่ฝีเท้าร้ายกาจไม่แพ้พี่ชายเลยทีเดียว

“เจ้าเช็ค” เริ่มเล่นฟุตบอลตอนอายุ 9 ขวบ เพราะเห็นคนในพ่อและน้าเตะเล่นกันสนุกๆ เช่นเดียวกันกับน้องชายของเขา ประกอบกับที่สถานศึกษาตอนประถมอย่าง โรงเรียนชุมชนบ้านหัวเสือ อยู่หน้าบ้านพอดี ทำให้ให้ได้เล่นฟุตบอลอย่างจริงจังนับตั้งแต่นั้นมา พัฒนาฝีเท้าจนได้เป็นนักกีฬาของโรงเรียนขุขันธ์ ในระดับมัธยม เดินทางไปแข่งตามโรงเรียนต่างๆ โดยมีอายุน้อยกว่าเพื่อนร่วมทีมถึงสามปี



ต่อมาจนอายุ 13 ปี โค้ชของทีมโรงเรียนก็เห็นแววรุ่ง จึงได้พาทั้งตัวเขาและรุ่นพี่ในทีมอีก 4-5 คน เดินทางไปคัดตัวเข้าอะคาเดมีระดับ 16 ปี ของบุรีรัมย์ (โรงเรียนภัทรบพิตร) และนั่นคือจุดเริ่มต้นเส้นทางสายลูกหนังของดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งยอดทีมแดนอีสานรายนี้

เหตุผลที่ต้องรู้จักเขา

จากสองประตูสุดสวยในเกมโตโยต้า ลีก คัพ กับ สงขลา ยูไนเต็ด และประตูชัยพาทีมถอนแค้น อาร์มี่ ยูไนเต็ด เมื่อวานนี้ ทำให้สปอตไลท์ทุกดวงสาดส่องมายังตัวเขาในทันที



สุภโชค ฉายแววฝีเท้าฉกาจมาตั้งแต่ก่อนเข้าร่วมทัพ “ปราสาทสายฟ้า” จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ว่าเขาและรุ่นพี่จากโรงเรียนมัธยม เดินทางไปคัดตัวเข้าอะคาเดมี ผลปรากฎว่า “เจ้าเช็ค” เป็นคนเดียวที่ได้รับโอกาสดังกล่าว ทั้งที่มีอายุน้อยกว่าคนอื่นถึง 3 ปี จากตอนแรกที่พ่อและแม่ไม่ค่อยสนใจเรื่องฟุตบอลของลูกชายเท่าไหร่ ก็ทำให้หันมาใสนับสนุนเต็มที่และดีใจที่เขาประสบความสำเร็จก้าวแรกของชีวิต

เช็ค หอบข้าวของจากบ้านเกิดมาใช้ชีวิตคนเดียวที่บุรีรัมย์นับตั้งแต่นั้นมา สั่งสมประสบการณ์และฝีเท้า จนได้โอกาสประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่นิดๆหน่อยๆเมื่อปีที่แล้ว จนมาได้ลงสนามบ่อยๆในฤดูกาลนี้ ซึ่งฟอร์มของเขาหากเทียบกับนักเตะรุ่นเดียวกัน ถือว่าโดดเด่นเอาเรื่อง สามารถเล่นร่วมกับรุ่นพี่ได้อย่างเข้าขาและเนียนตา ไม่ว่าจะรับบทบาทกองกลางตัวรุกตามธรรมชาติ หรือปีกที่ถนัดรองลงมา จึงทำให้ได้เห็นเขาโลดแล่นอยู่บนผืนหญ้าหลายครั้ง และไม่เคยทำให้บรรดา GU12 ต้องผิดหวัง

นอกจากนี้ หนุ่มน้อยวัย 19 ปี ยังเป็นที่โปรดปรานของประธานสโมสรอย่าง เนวิน ชิดชอบ ที่ถึงกับยกย่องว่าเขาคือ ว่าที่ อันเดรส อิเนียสต้า แห่งเมืองไทยเลยทีเดียว โดยเจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าดีใจที่นายใหญ่ของทีมพูดถึงตนแบบนั้น อีกทั้งยังไม่เคยคิดว่าจะให้โอกาสและชื่นชอบในตัวเขามากขนาดนี้

จุดแข็ง

ความเร็ว, ความคล่องแคล่วว่องไว และความสามารถเฉพาะตัวของเขา ทำเอาแนวรับของหลายๆทีมในไทยลีกถึงกับหัวปั่นมาแล้วนักต่อนัก อีกทั้งยังสามารถเล่นได้ทั้งสองบทบาทอย่างกองกลางตัวรุก และปีกสองฝั่ง เรียกได้ว่ามีทั้งลูกบุ๊และบุ๋นอยู่ในตัวเอง ยามเล่นตรงกลางสนาม ก็สร้างผ่านบอลได้อย่างเฉียบคม หรือเมื่อรับหน้าที่ริมเส้น ก็ปั่นปวนคู่ต่อสู้ได้อยู่เสมอ

จุดอ่อน

แน่นอนว่าด้วยร่างการที่ผอมบาง และส่วนสูงไม่มากนัก ความแข็งแกร่งจึงเป็นจุดอ่อนที่เห็นได้ชัดของสุภโชค ยามต้องปะทะกับกองหลังที่ตัวใหญ่และมีความแข็งแกร่ง อาจทำให้เขาไปไม่เป็นจนถึงกับเล่นไม่ออก ทำให้ต้องถูกจับเข้าฟิตเนสอาทิตย์ละ 3 วัน เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังมีอายุน้อยเพียงแค่ 18 ปี เรื่องประสบการณ์และการตัดสินใจ คืออีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องปรับจูนแก้ไขในบางจังหวะ


ที่มา https://www.fourfourtwo.com/th/features/suphochkh-saarchaati-waathii-iieniiystaaemuuengaithykhngnaayenwin-chidchb#8f3XIAhkd44PhvWd.99สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2561

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น